หัวข้อข่าว
คุก21ปีแฮกเกอร์ข้อมูลลับเอทีเอ็มลูกค้าใบโพธิ์
แหล่งที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ประจำวันที่ วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม 2555 เวลา 19:59 น.
คุก 21ปีเศษแฮกเกอร์แสบล้วงข้อมูลลับบัตรเอทีเอ็มลูกค้าแบงก์ใบโพธิ์ โอนเงินกว่า 3 แสนไปจ่ายหนี้ รับสารภาพเหลือติด10 ปี เศษพร้อมคืน3.6แสนให้ผู้เสียหาย
เนื้อหาข่าว
นายภาณุพัฒน์ เพ็ญพัฒน์
ฤกษ์เสริมสุข อายุ 30 ปี ชาว จ.นครนายก เป็นจำเลยในความผิดฐานเข้าระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน
ทำลายแก้ไข เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ทำให้เกิดความเสียหาย ,ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ
,ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยจำเลยบังอาจใช้ข้อมูลหมายเลข 16 หลัก ที่ปรากฏบนหน้าบัตร
เอทีเอ็ม พร้อมรหัสลับที่ใช้ถอนเงินของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)
ผู้เสียหายที่ออกให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นผู้เสียหายอีก 4 ราย
แล้วจำเลยนำไปสมัครขอใช้บริการ SCB EASY NET โดยกำหนดชื่อประจำตัว
และรหัสผ่านด้วยตนเองตามขั้นตอนและวิธีการที่ ธนาคารฯ กำหนด
เป็นเหตุให้ธนาคารฯหลงเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้เสียหาย4 ราย
จึงออกชื่อประจำตัวผู้ใช้ให้ จากนั้นจำเลยได้นำชื่อประจำตัวของผู้เสียหาย
และรหัสผ่านไปโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหายเพื่อใช้ชำระค่าสินค้า
หรือบริการทางอินเตอร์เน็ตหลายครั้งซึ่งเป็นร้านค้าต่างประเทศรวม 4 ครั้ง เป็นเงิน 368,800 บาท ต่อมาตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรรมทางเทคโนโลยี
(ปอท.)ติดตามจับกุมได้ พร้อมให้การรับสารภาพ เหตุเกิดที่แขวงเขต- จตุจักร กรุงเทพฯ
และที่อื่นเกี่ยวพันกัน
กระทำผิดมาตรตรา
กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/5 ประกอบมาตรา269/7 ,334,335 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ.2550 มาตรา 5,7,9
บทลงโทษในการกระทำผิด
ศาลตัดสินบทลงโทษฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ 5 กระทง จำคุกกระทงละ 9 เดือน เป็นจำคุก 3 ปี 9 เดือน
ฐานเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน ทำลายแก้ไข
เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ทำให้เกิดความเสียหายฯ 4 กระทง
จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 8 ปี
และฐานลักทรัพย์ฯ จำคุกกระทงละ 2 ปี 5 กระทง
เป็นจำคุก 10 ปี รวมจำคุก 21 ปี 9
เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลย 10
ปี 10 เดือน 15 วัน และให้จำเลยชดใช้เงินคืน
368,800 บาทแก่ผู้เสียหายด้วย.
การป้องกันการกระทำผิด
การมีความรู้ในด้านระบบคอมพิวเตอร์
ถือเป็นสิ่งที่ดีหากนำสิ่งที่มีอยู่ไปใช้ในทางที่ถูกที่ควร
แต่หากนำความรู้ของตนไปใช้ในทางที่ผิด ก็อาจส่งผลร้ายต่อผู้อื่น รวมทั้งตนเองด้วย
ดังนั้น แนวทางในการป้องกันการกระทำผิดคือ
ไม่ควรให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารของตนเอง และควรเก็บข้อมูลให้ดี
มีการตรวจสอบข้อมูลในบัญชีอยู่สม่ำเสมอเพื่อป้องกันอันตรายในการเจาะข้อมูลของตนเอง
และสิ่งที่ดีที่สุดในการทำธุระกรรมกับธนาคาร คือควร ไปติดต่อที่ธนาคารโดยตรง
ไม่ควรติดต่อข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเพราะอาจทำให้ผู้อื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลของตนเองได้ง่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น